วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ธุรกิจที่มั้งคั่งในอนาคตจะเป็นธุรกิจที่ไม่มีสินค้าเป็นชิ้น



       postasset หากเราติดตามข่าวสารกันมาอย่างตลอดแล้วละก็เราก็จะทราบดีว่าเศรษฐีส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเจ้าของสินค้าพื้นฐานที่เราจำเป็นจะต้องใช้ในชีวิตประจำวัน โดยจะต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง และผลิตออกมาครั้งละมากๆ ทำให้การที่ใครคิดจะเข้ามาแข่งขันนั้นทำได้ยากมากๆ ยกตัวอย่างในประเทศไทยก็อย่างเช่น มาม่า เบียร์ช้าง  เบียร์สิงฆ์ เป็นต้น
       แต่เมื่อยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนไปมีบุคคลที่มีความสามารถในการสร้างโรงงานได้เพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้การแข่งขันในการขายสินค้านั้นรุนแรงตามไปด้วย สินค้าที่ผลิตออกมาจากโรงงานนั้นมากมายจนล้นตลาด และอำนาจในการซื้อก็ตกไปอยู่ในมือของลูกค้าลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อสินค้าจากใคร ทำให้ยุคนี้เป็นยุคการตลาดนำการผลิตและเกิดรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบจ้างผลิต ยกตัวอย่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจรูปแบบนี้นั้นก็คือไนกี้ ซึ่งขายสินค้าโดยที่ไม่ได้มีโรงงานผลิตของตัวเองเลย แต่พวกเขาจะเน้นเรื่องของการทำการตลาดและแบรนด์ให้มีคนสนใจและรู้สีกภูมิใจเมื่อได้ใส่แบร์นด์ไนกี้  postasset
       และเมื่อโลกเปลี่ยนไปอีกครั้งอินเตอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้วผู้คนก็เริ่มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้งานอินเตอร์เน็ตแค่พื้นฐานมาเป็นการใช้งานอินเตอร์เน็ตเพื่อทำสิ่งที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น การยืมเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ต การโอนเงินหรือธุรกรรมการเงินต่านผ่านอินเตอร์เน็ต ทำให้เจ้าของผู้ให้บริการต่างๆได้รับผลกำไลกันเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น facebook ,google ซึ่งหากสังเกตุดูดีๆทั้งสองเจ้านี้ไม่ได้มีเนื้อหาของตัวเองเลย เนื้อหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นมาจากการสร้างสรรค์ของสมาชิกหรือว่าบุคคลอื่นแทบทั้งสิ้น แต่ทั้งสองเจ้าทำหน้าที่เหมือนผู้ที่คอยดูแลจัดการข้อมูลให้แสดงผลได้ถูกต้องตรงตามความต้องการของผู้บริโภคเท่านั้นเอง และสินค้าของเขาก็คือซอร์สโค๊ดของโปรแกรมที่พวกเขาสร้างขึ้นมาแค่เพียงชุดเดียวแต่ว่าสามารถใช้ได้ทั่วโลก
       และดูเหมือนว่าโมเดลธุรกิจแบบนี้กำลังไปได้สวยเมื่อเกิด Uber บริการเรียกรถแท็กซี่ขึ้น พวกเขาก็ไม่ได้มีสินค้าของตัวเองเช่นเดียวกันกับ facebook และ google แต่สิ่งที่พวกเขาแตกต่างนั้นก็คือ พวกเขาผสมผสานกันระหว่างโลกออน์ไลน์คือแอฟพิเคชั่นและส่วนของโลกออฟไลน์นั้นก็คือรถแท๊กซี่เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ยกตัวอย่างอีกสักหนึ่งตัวอย่างนั้นก็คือ airbnb บริการให้นำห้องว่างมาให้คนอื่นๆสามารถเช่าได้ แต่ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั่วทั้งโลก และกำลังจะมีบริการใหม่ๆเกิดขึ้นบนโลกนี้อีกมากมาย โดยจะมีลักษณะเป็น การผสมผสานกันระหว่างโลกออน์ไลน์กับโลกออฟไลน์ อย่างในเมืองไทยก็เริ่มเกิดบริการดีๆขึ้นมาหลายๆบริการแล้ว และอีกไม่นานพวกเราคงจะคุ้นชื่อบริการอย่างเช่น Refin,piggipo และอื่นๆอีกมากมาย สิ่งที่เราต้องทำนั้นก็คือเรียนรู้กับเทคโนโลยีต่างๆที่กำลังจะก้าวเข้ามาทำให้ชีวิตจองพวกเราทุกคนเดินหน้าไปในทางที่ดี