วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เอ็ดเวิร์ดสโนเด็น



       ผมพึ่งได้มีโอกาสดูหนังสื่อ สโนเด็น ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าปีชาวสหรัฐอเมริกา ที่เขาได้มีโอกาสเข้าไปทำงานเป็นลูกจ้างของ NSA ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของซีไอเอ เขามีหน้าที่คอยติดตามดูพฤติกรรมต่างๆของทุกคนทั่วโลกที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตโดย NSA นั้นได้ลอบเข้าไปเชื่อมต่อกับเครื่องเซอร์เวอร์ของบริษัทด้านไอทีขนาดใหญ่ของโลกกว่า 20 บริษัทด้วยกันทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับของทุกคนในโลกใบนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ วีดีโอ หรือข้อมูลการสนทนาผ่านโปรแกรมแชตต่างๆ สามารถเปิดดูกล้องจากเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของคนที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เอาไว้โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยได้เพราะว่ากล้องนั้นจะไม่เปิดหลอดไฟที่อยู่ข้างๆ pageqq
       ผมดูแล้วผมรู้สึกทึ้งมากเพราะว่าหนังเรื่องดังกล่าวนั้นเขาสร้างขึ้นมาจากเรื่องจริงๆ ผมไม่คิดว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าจะสามารถทำได้มากมายขนาดนี้เพราะว่าทุกอย่างที่เราคิดว่ามันเป็นความลับแต่ว่าจริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นความลับเลยเพราะฉะนั้นคนที่ถือครองข้อมูลดังกล่าวก็จะได้เปรียบในทุกๆอย่าง pageqq
       แต่โชคชะตาของผู้ที่เปิดเผยข้อมูลก็ลำบากเพราะว่าเขาไม่สามารถที่จะอยู่ในประเทศของตัวเองได้ต้องหนีออกจากประทศและท้ายที่สุดแล้วก็ต้องไปอยู่ที่ประเทศที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลนั้นก็คือรัสเซียนั้นเอง pageqq
       หลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบนั้นผมก็เกิดความรู้สึกขึ้นมาสองทางนั้นก็คือเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ NSA ในด้านที่เห็นด้วยนั้นก็เพราะว่าผมคิดว่าจะดีมากๆถ้าหากเราสามารถที่จะรู้ความเคลื่อนไหวของคนที่คิดร้ายกับโลกของเราได้และหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีโดยที่ไม่เกิดการสูญเสียขึ้นมาเลย และหากว่าเขาไม่นำข้อมูลที่พวกเขานั้นสามารถเข้าถึงได้มาใช้ประโยชน์ในทางด้านอื่นๆผมก็คิดว่ามันน่าจะป้องกันการสูญเสียที่เกิดกับโลกใบนี้เพราะความคิดร้ายๆของคนบางกลุ่มนั้นเอง
       แต่ด้านที่ไม่เห็นด้วยเพราะว่าผมสงสัยในตัวบุคลากรของ NSA ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้เพราะมีตอนหนึ่งของหนังที่แสดงให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่บางคนได้นำความลับที่ตัวเองสามารถเข้าถึงได้มาหาประโยชน์จากบุคคลภายนอก ซึ่งจะรับประกันได้อย่างไรว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่คนอื่นๆอีกที่เอาข้อมูลความลับแบบนี้มาหาประโยชน์
       แต่ถึงอยางไรก็ตามหลังจากโครงการนี้ได้ถูกเปิดเผยออกมาจาก สโนเด็น แล้วก็ทำให้โครงการนี้ถูกพูดถึงในด้านลบเป็นจำนวนมากไม่ใช่เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นแต่ยังเป็นในพื้นที่ทั่วโลกอีกด้วยมีการเรียกร้องให้รัฐบาลของตัวเองออกมาปกป้อง สโนเด็น ด้วยและท้ายที่สุดแล้วโครงการนี้ก็ต้องถูกล้มเลิกไป