วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ชาววีแกน ผู้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกด้วยวิถีการกิน


          หลังจากเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 วิกฤตภาวะโลกร้อนเริ่มส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้มากขึ้น สภาพอากาศที่แปรปรวน เกิดภัยธรรมชาติในระดับใหญ่ ๆ หลายครั้ง ซึ่งเบื้องหลังของเหตุร้ายเหล่านี้ มีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่ามีต้นตอมาจากภาวะโลกร้อน ที่กำลังเป็นภัยร้ายแรงต่อมนุษย์กว่าหกพันล้านคน

          ผลเกิดจากการก่อมลพิษที่ทำให้มีอากาศเสียถูกส่งขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศในปริมาณมาก และผลเสียเหล่านั้นก็ส่งผลกระทบอันเลวร้ายลงมา ที่เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงชัดเจนคือเรื่องของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น จนทำให้ผืนแผ่นดินถูกน้ำทะเลกินแดนเข้ามาทีละน้อย และหากยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป อนาคตในอีก 100 ปีข้างหน้า มหานครทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 10 แห่งจะต้องจมอยู่ใต้ผืนน้ำ

          งานอุตสาหกรรมคือหนึ่งในสิ่งที่ก่อมลพิษมากที่สุด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่หลายคนอาจมองผิวเผินว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวกัน แต่เมื่อมองลงไปเบื้องลึกแล้ว เราก็จะทราบว่าการทำปศุสัตว์ต้องใช้พื้นที่เป็นวงกว้าง พื้นที่ของฟาร์มเลี้ยงสัตว์จะมีขนาดประมาณนึง แต่สัตว์หลายชนิดก็จำเป็นต้องกินพืช ดังนั้นจึงมีการทำไร่ที่มีอาณาเขตกว้างจนกินพื้นที่ป่าเข้าไป แน่นอนว่ามันมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่กว่าฟาร์มเลี้ยงสัตว์ อีกทั้งไร่เหล่านี้ยังมีการใช้สารเคมีฆ่าแมลงเป็นจำนวนมาก ก็ต้องมีการทำอุตสาหกรรมในด้านนี้เพิ่มอีก คนเหล่านั้นไม่สนใจด้วยซ้ำเพราะพืชที่ปลูกก็ให้สัตว์กิน โดยที่หน่วยงานรัฐในหลาย ๆ ประเทศก็ไม่ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหานี้ ส่วนผู้คนก็ดูเหมือนสนใจกับเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิต หรือความบันเทิงอย่างเพลง หนัง รวมไปถึงการแทงบอลออนไลน์ด้วยเช่นกัน

          สำหรับชาววีแกน พวกเขาคือกลุ่มคนที่พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ด้วยการใช้วิถีการกินในแบบที่ไม่พึ่งพาสัตว์ รวมไปถึงการอุปโภคบริโภค สินค้าอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ พวกเขาจะไม่สนับสนุนโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่เรื่องอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม อย่างเช่นนมวัวสดหรือเนยที่มีส่วนทำมากจากไขมันสัตว์แล้วใส่ลงไปในของหวาน เป็นการแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนที่สุดว่าพวกเขาจะไม่ยอมสนับสนุนสิ่งเหล่านี้โดยเด็ดขาด

          การกระทำของเหล่าวีแกนนับเป็นอีกทางที่มีส่วนช่วยในการเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งในทุกวันนี้พวกเขากำลังมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และตราบใดที่ตัวเลขยังคงมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ก็มีโอกาสที่เราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในแวดวงอุตสาหกรรมปศุสัตว์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ถูกส่งออกมายังท้องตลาด